วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรู้

1. ความหมายของโปแกรมประมวลผลคำ
2. ความเป็นมาของโปรแกรมประมวลผลคำ
3. คุณลักษณะที่ดีของโปรแกรมประมวลผลคำ
4. ความสำคัญของโปรแกรมประมวลผลคำ
5. ประโยชน์ของโปรแกรมประมวลผลคำ
6. การติดตั้งโปรแกรม Microsoft Office 2003 ฉบับภาษาไทย
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
1. บอกความหมายของโปแกรมประมวลผลคำได้
2. บอกความเป็นมาของโปรแกรมประมวลผลคำได้
3. บอกคุณลักษณะที่ดีของโปรแกรมประมวลผลคำได้
4. บอกความสำคัญของโปรแกรมประมวลผลคำได้
5. บอกประโยชน์ของโปรแกรมประมวลผลคำได้
6. สามารถติดตั้งโปรแกรม Microsoft Office 2003 ฉบับภาษาไทยได้
สาระสำคคัญประจำบท

             
   โปรแกรมประมวลผลคำ (Word Processor) หรือ Word processing คือ การนำคำมาเรียงกันให้อยู่ในรูปแบบที่ผู้ใช้ต้องการ ซึ่งสามารถกำหนดรูปแบบของการพิมพ์ข้อความและแก้ไขข้อความเพิ่มเติมในเอกสารได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว สวยงาม มีประสิทธิภาพมากขึ้น ยุคต้น ๆ โปรแกรมประมวลผลคำส่วนใหญ่ใช้โปรแกรมจากต่างประเทศ เช่น โปรแกรม Word Processor โปรแกรม Word Starหรือ โปรแกรม Word Perfect ต่อมาคนไทยได้พัฒนาโปรมแกรมประมวลผลคำ หรือโปรแกรมเวร์ดโปรเซสซิ่ง ให้มีความสามารถพิมพ์ข้อความเป็นภาษาไทยได้ เช่น โปรแกรมซียูไรเตอร์ (CU Writer) คือ "โปรมแกรมเวร์ดจุฬา" นั่นเอง และ "โปรแกรมเวิร์ดราชวิถี" (Word PC) ซึ่งทำงานบนระบบปฏิบัติการ DOS ต่อมาได้มีการพัฒนาโปรแกรมประมวลผลคำให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น สามารถทำงานบนวินโดวส์ จนในปัจจุบันโปรแกรมประมวลผลคำ (Word Processor) ที่ใช้กันรุ่นล่าสุดคือ ไมโครซอฟต์เวิร์ด 2003 ฉบับภาษาไทย (Microsoft Office Word 2003 Thai)

บทที่ 1 ความหมายของการประมวลผลคำ


บทที่ 1 ความหมายของการประมวลผลคำ

 ความหมายของการประมวลผลคำ
การประมวลผลคำ หรือ Word Processing คือ การนำคำหลาย ๆ คำมาเรียงกันให้อยู่ใน รูปแบบที่กำหนด ซึ่งเราสามารถกำหนดได้ว่าจะให้มีกี่ตัวอักษรต่อหนึ่งบรรทัด หรือหน้าละกี่ บรรทัด กั้นระยะหน้าระยะหลังเท่าใด และสามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้อย่างสะดวกจนกว่าจะพอใจ แล้วจึงสั่งพิมพ์เอกสารนั้น ๆ ออกมากี่ชุดก็ได้ โดยทุกชุดที่ออกมาจากเครื่องพิมพ์จะเหมือนกันทุก ประการ เสมือนกับการถ่ายเอกสารหรือการก๊อปปี้ แต่ความจริงแล้วเอกสารทุกแผ่นจะถูกพิมพ์ ออกมาจากเครื่องพิมพ์อย่างสวยงามและปราณีต เพราะปราศจากร่องรอยของขูดลบใด ๆ และนั่น ย่อมหมายถึงการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการทำงาน โดยเราจะต้องทำการพิมพ์ข้อมูลต่าง ๆ ซึ่ง เป็นเอกสาร บทความ รายงาน จดหมาย ฯลฯ เข้าไปเก็บไว้ในหน่วยความจำของเครื่อง คอมพิวเตอร์ หลังจากนั้นเราสามารถใช้คำสั่งต่าง ๆ เข้าไปจัดการแก้ไข ดัดแปลง หรือเพิ่มเติม ข้อมูลเหล่านั้นได้ตลอดเวลา โปรแกรม (Program) หรือชุดคำสั่งที่ทำให้เราสามารถทำงานกับ เอกสาร และสั่งงานต่าง ๆ นี้ได้ มีชื่อเรียกว่า โปรแกรมเวิร์ดโปรเซสซิ่ง (Word Processing) หรือ โปรแกรมประมวลผลคำ
ความเป็นมาของโปรแกรมประมวลผลคำ
                โปรแกรมประมวลผลคำ (word Processor) หรือเรียกกันว่า โปรแกรมเวิร์ดโปรเซสซิ่ง (word Processing) เป็นโปรแกรมที่เน้นการจัดพิมพ์เอกสาร ปัจจุบันนิยมใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด ซึ่งเป็นโปรแกรมประมวลผลคำแบบพิเศษ ช่วยให้สร้างเอกสารแบบมืออาชีพอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัด เช่น เหมาะกับงานด้านการพิมพ์เอกสารทุกชนิด สามารถพิมพ์เอกสารออกมาเป็นชุด ๆ ซึ่งเอกสารอาจเป็นจดหมาย บันทึกข้อความ รายงาน บทความ ประวัติย่อ และยังสามารถตรวจสอบ ทบทวน แก้ไข ปรับปรุงความถูกต้องในการพิมพ์เอกสารได้อย่างง่ายดาย สามารถตรวจสอบ สะกดคำ และหลักไวยากรณ์ เพิ่มตาราง เพิ่มกราฟิก ในเอกสารได้อย่างง่ายดาย หรือเพิ่มเติมข้อมูลได้ตลอดเวลา สามารถใช้ลักษณะของการจัดพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ (Desktop Publishing) เพื่อสร้างโบชัวร์ (Brochures) ด้านสื่อโฆษณา (Advertisements) และจดหมายข่าว (Newsletters) ได้ด้วยโปรแกรมประมวลผลคำ (word Processor) ในยุคเริ่มแรก ปีพ.. 2517 นำโปรแกรมจากต่างประเทศ ซึ่งสามารถพิมพ์ข้อความได้เฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้น ตัวอย่างเช่น โปรแกรม Word Star ของบริษัทไมโครโปร จำกัด ต่อมาในปี พ.. 2529 นายแพทย์ชุษณะ มะกรสาร เป็นหมอประจำโรงพยาบาลราชวิถี ได้พัฒนาโปรแกรมประมวลผลคำชื่อว่า Word PC (เวิร์ดราชวิถีใช้คำย่อว่า RW เวอร์ชั่นแรกๆ ต้องใช้กับการ์ดภาษาไทย Hercules แสดงผล 8 บรรทัด ใน 1 หน้าจอ เวอร์ชั่นสุดท้ายเป็นเวอรืชั่น 2 แสดงผลแบบขาวดำ 25 บรรทัด ต่อมาในปี พ.. 2532 สถาบันบริการคอมพิวเตอร์และภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ร่วมมือกันพัฒนาโปรแกรมประมวลผลคำภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ชื่อว่าโปรแกรม CU – Writer (เวิร์ดจุฬา) ใช้คำย่อว่า CW เป็นผลงานพัฒนาโปรแกรมของนักศึกษา ที่ทำกันต่อเนื่องหลายรุ่น ใช้ในการแสดงผลด้วย Graphic เขียนด้วย Software ล้วนๆ ไม่ต้องจัดหา Hardware ภาษาไทยมาเพิ่มทั้งสิ้น เริ่มพัฒนาจากจอภาพ Monochome จนถึงจอ VGA Color ตั้งแต่เวอร์ชั่นเริ่มแรก 1.1,1.2 ,1.3, 1.41 ,1.51,1.52จนพัฒนารุ่นสุดท้ายเวอร์ชั่น 1.6 จนกระทั่งการพัฒนาหยุดชะงักไป อันเนื่องมาจากการถือกำเนิดโปรแกรมระบบปฏิบัติการวินโดวส์ (MS-Windows 3.0, 3.1, 3.11, 95, 98 , Me, 2000, XP) บริษัทไมโครซอฟต์จำกัด ได้พัฒนาโปรแกรมสำเร็จรูปชุดสำนักงานด้านภาษาไทยมาจำหน่ายให้กับผู้ใช้เป็นชุดครั้งแรก มีชื่อว่า “Microsoft Office รุ่น 4.3 มืออาชีพ” และมีการพัฒนาโปรแกรมต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันคือ Microft Office 2003 ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
โปรแกรม Microsoft Office 2003 ภาษาอังกฤษ, Microsoft Ofice 2003 Professional
Edition
ฉบับภาษาไทย และรุ่นล่าสุดโปรแกรม Microsoft Office System 2003 Professional Edition ฉบับภาษาไทย เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปทางบริษทไมโครซอฟต์ จำกัด รวมโปรแกรมในแผ่นซีดีดังนี้
CD1 – MS Office 11 Thai Edition
CD2 – MS Frontpage 2003 English
CD3 – MS VISIO 2003 PRO English
CD4 – MS Project 2003 PRO English
CD5 – MS ONENOTE 2003 English
โปรแกรมที่จำเป็นใช้งานในสำนักงาน จำนวน 11 โปรแกรม มีโปรแกรมต่างๆ ดังต่อไปนี้
1.            Microsoft Word 2003 Thai สร้างงานด้านเอกสาร รายงาน หนังสือ จดหมาย
2.            Microsoft Excel 2003 Thai สร้างแผ่นงานในลักษณะตารางเอกสาร คำนวณ สถิติ
3.            Microsoft Publisher 2003 Thai สร้างงานสื่อสิ่งพิมพ์ โปชัวร์ การ์ด ปฎิทิน เว็บเพจ
4.            Microsoft Outlook 2003 Thai ใช้สำหรับจัดการข้อความE-mail ตารางนัด
5.            Microsoft PowerPoint 2003 Thai สร้างงานนำเสนอและสามารถผ่านเว็บไซด์ได้อีกด้วย
6.            Microsoft Access 2003 Thai สร้างและบริหารจัดการฐานข้อมูล (Database)
7.            Microsoft InfoPath 2003 สนับสนุนการทำงานของ XML Web Services
8.            Microsoft FrontPage 2003 English โปรแกรมสำเร็จรูปสำหรับสร้างเว็บเพจ
9.            Microsoft Project 2003 Pro English เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปดานโครงการ
10.    Microsoft Project 2003Pro English โปรแกรมสำเร็จรูปใช้สำหรับสร้างผังงาน(Flowchart)
11.    Microsoft OneNote 2003 English สามารถจดการประชุมได้เหมือนเขียนบน

บทที่ 2 คุณลักษณะของโปรแกรมประมวลผลคำที่ดี

บทที่ 2 คุณลักษณะของโปรแกรมประมวลผลคำที่ดี

1. มีระบบขอความช่วยเหลือ (Help)
        โปรแกรมประมวลผลคำที่ดี ควรจะมีระบบขอวามช่วยเหลือที่จะคอยช่วยให้ คำแนะนำช่วยเหลือให้ผู้ใช้สามารถทำงานได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว เช่น หากเกิดปัญหากับการ ใช้งาน หรือสงสัยเกี่ยวกับวิธีการใช้งาน แทนที่จะต้องเปิดหาในหนังสือคือมือการใช้งานของ โปรแกรม ก็สามารถขอความช่วยเหลือจากโปรแกรมได้ทันที
2. มีระบบอัตโนมัติ
        โปรแกรมประมวลผลคำที่ดีควรจะมีระบบอัตโนมัติที่จะช่วยให้ผูใช้สามารถ ทำงานกับเอกสารได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น เช่น การตรวจสอบคำผิดอัตโนมัติ (Spell) การ จัดรูปแบบอัตโนมัติ (Auto Format) การแก้ไขอัตโนมัติ (Auto Correct) มีระบบใส่ข้อความ อัตโนมัติ ตรวจสอบการสะกดคำผิดได้ทั้งภาษาไทย และอังกฤษ เป็นต้น
3. การใช้ข้อมูลร่วมกันกับโปรแกรมอื่น ๆ ได้
        โปรแกรมประมวลผลคำที่ดี ควรจะมีความสามารถในการนำงานที่สร้างด้วย โปรแกรมอื่น ๆ มาใช้งานร่วมกับโปรแกรมได้ เช่น การแทรกภาพ อักษรศิลป์ สัญลักษณ์ ผัง องค์กร กราฟ ฯลฯ เป็นต้น นอกจากนี้ควรมีความสามารถในการดึงเอกสารจากโปรแกรม Word Processing อื่น ๆ มาใช้งานในโปรแกรมได้
4. เรียนรู้การใช้งานได้ง่าย
        การเรียนรู้วิธีการใช้งานโปรแกรม ไม่ควรจะต้องใช้เวลานานเกินไปสำหรับการ เรียนรู้ ควรมีบทเรียนช่วยสอน หรือสาธิต (Demo) เกี่ยวกับขั้นตอนต่าง ๆ ในการใช้งานของ โปรแกรม เพื่อให้สามารถเรียนรู้การใช้งานโปรแกรมได้อย่างรวดเร็ว
5. มีระบบการค้นหา และแทนที่คำ
        โปรแกรมประมวลผลคำที่ดี ควรจะระบบการค้นหา และการแทนที่คำ เพื่อให้ผู้ใช้ สามารถที่จะทำการค้นหาคำ เพื่อการแก้ไข หรือทำการแทนที่ได้สะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น
6. จัดรูปแบบเอกสารได้สะดวก
        โปรแกรมประมวลผลคำที่ดี ควรจะมีเครื่องมือที่ช่วยให้การจัดรูปแบบของเอกสารได้ สะดวก และรวดเร็ว ซึ่งควรจะมีความสามารถที่จะจัดรูปแบบได้รวดเร็ว มีขั้นตอนในการ จัดรูปแบบที่ไม่ยุ่งยาก
7. กำหนดรูปแบบตัวอักษรได้หลายแบบ หลายขนาด
        โปรแกรมประมวลผลคำที่ดี ควรจะมีคุณสมบัติในการเปลี่ยนแปลง และกำหนด รูปแบบของตัวอักษร และขนาดของตัวอักษรได้หลายรูปแบบ รวมทั้งตัวอักษรพิเศษต่าง ๆ ที่ ไม่มีบนแป้นพิมพ์ด้วย

บทที่ 3 ประโยชน์ของโปรแกรมประมวลผลคำ

บทที่ 3 ประโยชน์ของโปรแกรมประมวลผลคำ

1. การจัดเก็บเอกสาร
         การจัดเก็บเอกสารที่พิมพ์ขึ้นด้วยกระดาษนั้น อาจจะสูญหายหรือฉีกขาดได้ง่าย แต่ การจัดเก็บเอกสารในรูปของไฟล์ข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น ข้อมูลต่าง ๆ จะอยู่ครบถ้วนตราบเท่าที่สื่อ ที่ใช้ในการเก็บบันทึกข้อมูล เช่น ดิสก์เก็ต ฮาร์ดดิสก์ แผ่นซีดี ฯลฯ อยู่ในสภาพที่ดีและสมบูรณ์
2. การค้นหาและการเรียกใช้ข้อมูล
         โปรแกรมประมวลผลคำจะมีความสามารถในการค้นหาข้อความหรือคำที่เรา ต้องการได้อย่างรวดเร็ว และยังสามารถค้นหาข้อความหรือคำ แล้วแทนที่ด้วยข้อความหรือคำใหม่ ได้โดยอัตโนมัติ ตลอดจนการเรียกใช้แฟ้มข้อมูลก็ทำได้โดยง่ายและสะดวก เพียงแต่ทราบชื่อไฟล์ และตำแหน่งที่จัดเก็บก็สามารถเรียกใช้ไฟล์ได้โดยสะดวกรวดเร็วไม่ยุ่งยากเหมือนกับการค้นหา และเรียกใช้เอกสารธรรมดา ซึ่งช่วยให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย
3. การทำสำเนา
         การทำสำเนาเอกสารด้วยเครื่องพิมพ์ดีดจะต้องใช้กระดาษคาร์บอน และสามารถ ทำสำเนาได้เพียงครั้งละ 3-4 แผ่นเท่านั้น ในขณะที่การทำสำเนาด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถทำ ได้อย่างไม่จำกัดและทุกสำเนามีความชัดเจนเท่าเทียมกัน
4. การเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสาร
         การพิมพ์เอกสารด้วยเครื่องพิมพ์ดีด มักจะมีการพิมพ์ผิดอยู่เสมอ ๆ ทำให้เสียเวลา ในการแก้ไขเอกสาร ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยาก นอกจากนี้เอกสารที่พิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ดีดก็ไม่ สวยงามเท่าที่ควร และจะปรากฏร่องรอยของการแก้ไขขูดลบ แต่ถ้าใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการ พิมพ์เอกสาร ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้จะหมดไป ซึ่งช่วยให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย
5. การจัดรูปแบบเอกสาร
         โปรแกรมประมวลผลคำมีความสามารถในการจัดทำรูปแบบเอกสารได้อย่างดีและ มีประสิทธิภาพ เช่น การกั้นระยะหน้าและหลัง การใส่ข้อความหัวกระดาษและท้ายกระดาษ การจัด เอกสารหลายคอลัมน์ การจัดรูปแบบอัตโนมัติ ฯลฯ ช่วยให้เกิดความสะดวกในการทำงานเหนือกว่า การทำงานแบบเอกสารธรรมดา